ฉลาก สติกเกอร์ พื้นที่ขนาดเล็กที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม


          

          การติดฉลากบรรจุภัณฑ์ในด้านการตลาดนั้น ส่วนใหญ่นักการตลาดจะใช้การสติกเกอร์ในผลิตภัณฑ์ที่รับประทานได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายความรู้ เกี่ยวกับคุณประโยชน์ใหม่ๆ ของส่วนผสม ทั้งนี้อาจจะอ้างอิงงานวิจัยใหม่ที่ค้นพบ ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภค นอกจากนี้การติดฉลากยังช่วยบอกถึงส่วนผสม และปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวันอีกด้วย


ชนิดของการติดฉลากในด้านการตลาด

1. ฉลากตราสินค้าผลิตภัณฑ์
          ผลิตภัณฑ์จำเป็นต้องมีตราสินค้าเพื่อช่วยในการระบุตัวตน และเน้นย้ำเรื่องแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ จากการสำรวจ พบว่าลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ จะเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตใหม่โดยไม่ลังเล เพราะมีความเชื่อมัน เชื่อถือ และไว้วางใจว่า แบรนด์นั้น ๆ จะผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพ โดยฉลากผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้า ต้องมีการยึดแน่นกับพื้นผิวของผลิตภัณฑ์อย่างแน่นหนา และเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์นั้นมากที่สุด ตามแต่วัสดุที่จะยึดติด ฉลากที่มีตราสินค้ามีอยู่สองประเภทคือ ฉลากแบบนำออกได้และแบบนำออกไม่ได้

          ฉลากแบบถาวรควรจะต้องมีจะต้องมีการยึดติดที่แน่นหนา นำออกได้ยาก และทนต่อการกระทบในหลายปัจจัยได้ ส่วนฉลากผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำออกได้ ควรจะต้องติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ จนกว่าลูกค้าจะต้องการเอาออกเพื่อใช้หรือบริโภคผลิตภัณฑ์


2. ฉลากสิ่งแวดล้อมหรือฉลากข้อมูล
          ฉลากข้อมูลหรือฉลากสิ่งแวดล้อม จะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับบริโภค เช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำหน่ายออกอย่างรวดเร็ว โดยเฉลากชนิดดังกล่าว จะมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ในปัจจุบันจะพบว่า บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ มักจะเลือกใช้วัสดุในการทำฉลากที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้รบกวนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัทและผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย


3. ฉลากผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ
          ทั่วโลกมีการใช้ฉลากผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิด ซึ่งมีการผลิต ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ตอบสนองความต้องการของเจ้าของบริษัท และเจ้าของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สินค้าและแบรนด์ เป็นที่โดดเด่น น่าจะจดจำ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลมากในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์


การติดฉลากผลิตภัณฑ์คืออะไร

          การติดฉลากผลิตภัณฑ์เป็นคุณลักษณะสำคัญในด้านการตลาด ซึ่งจะช่วยส่งเสริมด้านการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับสินค้า และให้ข้อมูลที่จำเป็น รวมไปถึงส่วนผสม คำแนะนำ การใช้งาน และบางครั้งอาจจะเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขาย การจับรางวัล ลด แลก แจก แถม ในช่วงการตลาดนั้น ๆ ได้อีกด้วย

          การติดฉลากผลิตภัณฑ์สามารถทำได้หลากหลายแล้วแต่ความต้องการของผู้ผลิต ทั้งขนาด วัสดุ รูปร่าง ซึ่งฉลากผลิตภัณฑ์นั้นมีบทบาทสำคัญ ที่จะต้องโดดเด่น สะดุดตา ไม่เป็นรองใครในชั้นสินค้า นอกจากนี้ฉลากผลิตภัณฑ์ที่ดี ยังสามารถสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการจะบอกกับผู้บริโภคได้โดยตรง เช่นเหตุผลด้านความปลอดภัย หรือไม่ให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ในทางที่ผิด ซึ่งทั้งหมดนี้คือรูปแบบที่แตกต่างของการใช้ฉลากสำหรับผลิตภัณฑ์ในโลกของธุรกิจยุคใหม่

          วัตถุประสงค์หลักอีกประการหนึ่งของการใช้ฉลากและบรรจุภัณฑ์ คือการโฆษณาประชาสัมพันธ์นักออกแบบผลิตภัณฑ์และนักการตลาดต้องร่วมมือกันออกแบบ ให้ฉลากและบรรจุภัณฑ์สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคให้หันมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ทันที เพราะการช่วงชิงพื้นที่การตลาดคือ คุณสามารถกระตุ้นความสนใจของลูกค้าผ่านฉลากที่ออกแบบมาอย่างดีนั้นได้มากขนาดไหน ดังนั้นฉลากและบรรจุภัณฑ์จึงจำเป็นที่จะต้องใช้วัสดุคุณภาพดี สำหรับสติกเกอร์ กระดาษ หรือสิ่งที่ใช้ในการยึดระหว่างฉลากและตัวผลิตภัณฑ์

          จะเห็นได้ว่าบทบาทของบรรจุภัณฑ์และการติดฉลากมีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมแล้ว การติดฉลากและบรรจุภัณฑ์สามารถใช้โดยนักการตลาด เพื่อกระตุ้นให้ผู้ซื้อที่มีศักยภาพซื้อผลิตภัณฑ์ได้ทันที นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังใช้เพื่อความสะดวกและการรับส่งข้อมูลร่วมถึงส่งเสริมการตลาดได้อีกด้วย

แหล่งที่มา :
https://www.packaging-labelling.com/articles/importance-of-labelling-in-marketing