เคล็ดลับ 6 ข้อเพื่อช่วยประหยัดต้นทุนในการพิมพ์ฉลากสินค้า


           รู้หรือไม่ว่ามีวิธีที่ทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ฉลากสินค้าได้? แม้วิธีที่เราจะแนะนำในบทความนี้อาจไม่ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากนัก แต่ก็ช่วยลดต้นทุนในการผลิตของคุณได้


มองภาพรวมของสิ่งที่คุณจะพิมพ์ออกมาเสมอ

           คุณต้องรู้ว่างานที่คุณต้องการพิมพ์จะออกมาในรูปแบบใด เช่น ต้องการพิมพ์แบบชิดขอบหรือไม่? สติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้าที่คุณต้องการพิมพ์เหมาะสมกับแพคเกจจิ้งของคุณหรือไม่? จัดเตรียมและตรวจสอบทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนการพิมพ์ฉลากสินค้า ไม่เช่นนั้นอาจทำให้คุณเสียทั้งเงินและเวลาไปอย่างสูญเปล่าได้


ออกแบบฉลากสินค้าแบบมินิมอล

           การออกแบบฉลากสินค้าสไตล์มินิมอลเป็นการออกแบบที่มีความเรียบง่าย โดยเป็นการออกแบบที่ใช้องค์ประกอบน้อยที่สุด ทำให้งานออกมาไม่ซับซ้อนและดูสะอาดตา งานที่ออกมาจะมีพื้นที่สีขาวเป็นส่วนใหญ่และมีตัวหนังสือไม่มากนัก ไม่เน้นไปที่ส่วนประกอบอื่น ๆ แต่จะเน้นเพียงส่วนสำคัญของสินค้าเท่านั้น การออกแบบแบบมินิมอลไม่เพียงแต่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงตัวสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดหมึกพิมพ์ของคุณอีกด้วย

           จุดสำคัญในการออกแบบแบบมินิมอลก็คือคุณควรเลือกข้อมูลที่คุณต้องการสื่อสารไปยังผู้บริโภค รวมถึงย่อให้ข้อมูลนั้นสั้นลงและทำให้มีอิทธิพลต่อผู้บริโภค


ใช้ความคิดสร้างสรรค์

           การใช้สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าแบบดั้งเดิมไม่ใช่วิธีเดียวในออกแบบฉลากสินค้า คุณสามารถออกแบบฉลากสินค้าแบบอื่น ๆ ที่มีความสร้างสรรค์ได้ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดวัสดุในการทำฉลากสินค้าเท่านั้น แต่ยังทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นขึ้นมาอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจเลือกใช้ฉลากสินค้าแบบกระดาษติดไว้บนซองสินค้า (Bag topper) ที่นอกจากจะช่วยปิดแพคเกจจิ้งแล้วยังช่วยนำเสนอแบรนด์ของคุณได้อีกด้วย


เพิ่มระยะตัดตก (Bleed)

           ระยะตัดตกคือส่วนที่พิมพ์เกินออกมาตรงขอบของฉลากสินค้า ระยะตัดตกจะช่วยให้คุณกำหนดระยะในการตัดฉลากสินค้าได้อย่างเหมาะสม การเพิ่มระยะตัดตกในไฟล์ฉลากสินค้านั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ก็อาจเป็นเรื่องยุ่งยากได้หากคุณไม่ใส่ใจกับมันมากพอ


ตรวจสอบค่า DPI

           หลังจากออกแบบฉลากสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ตรวจสอบค่า DPI (dots per inch) โดยค่านี้เป็นค่าที่จำเพาะกับเครื่องพิมพ์ของคุณ ค่า DPI จะเป็นตัวกำหนดจำนวนจุดทางกายภาพของหมึกพิมพ์หรือโทนเนอร์ในหน่วยตารางนิ้ว ยิ่งตั้งค่า DPI มากเท่าใดก็จะยิ่งใช้หมึกพิมพ์มากขึ้นเท่านั้น และยิ่งทำให้ภาพที่พิมพ์ออกมาดูเนียนตายิ่งขึ้น ซึ่งการลดค่า DPI ของฉลากสินค้าขนาดมาตรฐานไม่มีผลต่อคุณภาพของภาพเมื่อมองด้วยตาเปล่า คุณสามารถเปลี่ยนค่า DPI ได้จากการตั้งค่าในโปรแกรมออกแบบให้ตรงตามความต้องการของคุณ


พิมพ์ตัวอย่างออกมาก่อน

           เคล็ดลับข้อสุดท้ายคือการพิมพ์ตัวอย่างฉลากสินค้าออกมาก่อนเสมอเพื่อป้องกันการสูญเสียเงินไปโดยใช่เหตุ ตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ให้รอบคอบ, ตรวจดูสี, ขอบของฉลาก, และความทนทานในการใช้งานก่อนเสมอ หากคุณพอใจกับตัวอย่างแล้วก็เข้าสู่กระบวนการถัดไปได้เลย

แหล่งที่มา
www.uk.onlinelabels.com/articles/save-costs-with-printer-friendly-designs
www.millo.co/8-extremely-simple-ways-save-money-time-print-design-pro-tips-printers
www.designhill.com/design-blog/tips-for-designing-a-creative-label-and-packaging-design/